ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
แพงที่สุดในโลก Ferrari 250 GTO ปี 1963
15 ก.ค. 2557 N/A views
Ferrari 250 GTO ปี 1963 มันคือสุดยอดนวัตกรรมจากค่ายม้าลำพอง ซึ่งต้องบอกว่าหากดูจากประวัติของมันแล้วนั้น มันสามารถทำสถิติต่างๆได้อย่างลำพองจริงๆ ทั้งเรื่องของเครื่องยนต์ ราคา และจำนวนการผลิต จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่มันจะขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของรถยนต์ที่มีราคาแพงที่สุดในโลก
โฉมหน้าของรถยนต์ที่แพงที่สุด
ประวัติความเป็นมาของ Ferrari 250 GTO ปี 1963
Ferrari 250 GTO ปี 1963 ถูกเปิดตัวขึ้นในปี 1962 ซึ่งจุดประสงค์ในการสร้างของมันก็เพื่อใช้ในการแข่งขันในคลาสแกรนด์ ทัวร์ริ่ง ตัวรถจริงๆนั้นถูกผลิตในปี 1962 -1964 เท่านั้น และในตลอดระยะเวลา 2 ปี พวกเค้าสร้างมันขึ้นมาเพียง 39 คัน โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 590,000 บาทไทย
Interior
ว่ากันด้วยเรื่องสมรรถนะและดีไซน์
หากพูดถึงเรื่องสมรรถนะของเจ้า เฟอร์รารี่ 250 จีทีโอ ปี 1963 คันนี้ต้องบอกว่า มันเกิดมาพร้อมกับความแรงตั้งแต่แรกเริ่ม โดยพวกเค้าได้เลือกใช้เครื่องยนต์ V12 ขนาด 3,000 ซีซี ที่สามารถให้กำลังได้ถึง 300 แรงม้า และเมื่อถูกจับมาผนวกกับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ทำให้มันไม่เคยเป็นรองใครๆบนท้องถนน
ที่มาของความแรงสุดๆ
ส่วนเรื่องของดีไซน์ก็อย่างที่เราเห็นกันว่า เรื่องของเอกลักษณ์ เส้นสายความโค้งมน ที่ค่ายม้าลำพองสรรสร้างให้กับมันนั้น มันช่างเกินคำบรรยายเหลือเกิน โดยตัวถังถูกออกแบบให้มีสมรรถนะด้านอากาศพลศาสตร์ที่ดีเยี่ยม ภายในห้องโดยสารมีความหรูหราตามแบบฉบับของเฟอร์รารี่ แต่ก็ไม่มีใครเข้าใจว่าเพราะเหตุใดมันถึงไม่ได้รับความนิยมเลยในยุคนั้น

เหตุปัจจัยที่ทำให้มันกลายเป็นรถที่แพงที่สุดในโลก
รถยนต์อย่าง Ferrari 250 GTO ได้รับความนิยมขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งมันสวนทางกันกับกาลเวลาที่ร่วงโรยไป โดยมันมีราคามากกว่าค่าตัวเดิมถึง 10 เท่า ในปี 1980 ถัดมาอีก 6 ปี ค่าตัวของมันก็ทะลุ 1 ล้านเหรียญ แต่ไฮไลท์ของมันอยู่ที่ปี 2012 ซึ่งเป็นปีที่เจ้าม้าลำพองถูกซื้อขายด้วยราคา 35 ล้านเหรียญสหรัฐ ราวๆ 1,130 ล้านบาทไทย ส่งผลให้มันกลายเป็นรถแพงที่สุดในโลกทันที และหลังจากนั้น 1 ปี เฟอร์รารี่ 250 จีทีโอ ปี 1963 ก็ได้ทำลายสถิติของตัวเอง ด้วยมูลค่าการประมูลที่ราคาสูงถึง 53 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,700 ล้านบาท
งามตั้งแต่หัวจรดเท้าจริงๆครับ
เหตุผล 1 ข้อที่คาดว่าทำให้เจ้าหมอนี้มีราคาขนาดนี้ก็น่าจะเกิดจาก ตัวถังที่เป็นเอกลักษณ์และงดงามแบบนี้ มันมีเพียง 39 คันบนโลกใบนี้เท่านั้น อีกทั้งบุคคลสำคัญๆของโลกหลายๆคนก็เคยครอบครองมัน มันจึงเป็นรถหายากที่เป็นตำนานและแพงที่สุดในโลก และจะแพงไปกว่านี้ตามกาลเวลานั่นเองครับ
เพื่อนสามารถติดตามความคลาสสิคของรถยนต์รุ่นต่างๆเพิ่มเติมได้ที่นี่
Ferrari 250 GTO ปี 1963 กำลังจะกลายเป็นรถยนต์ที่แพงที่สุดในโลก ราคา 2,240 ล้านบาท
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 4 มิ.ย. 61 00:00
- 15,754 อ่าน
จุดประสงค์หลักในการใช้รถยนต์ คือการใช้เพื่อเดินจากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่งด้วยความสะดวกสบายและปลอดภัย ราคาก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณภาพของรถยนต์คันนั้นมีมากขนาดไหน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเมื่อกาลเวลาผ่านไป ราคารถก็ลดลงตามสภาพความเสื่อมถอยของตัวรถ แต่ก็มีบ้างที่ราคาเพิ่มขึ้นเพราะเป็นรุ่นที่นักสะสมมองหา แต่ใครจะเชื่อว่ารถยนต์คันหนึ่งจะมีราคาสูงไปถึง 2,240 ล้านบาทได้

Ferrari 250 GTO รถยนต์ที่ผลิตมาในปี 1963 เพียง 39 คันบนโลกนี้ กำลังจะกลายเป็นรถยนต์ที่ทำการซื้อขายแพงที่สุดในโลกไปแล้ว โดยจะมีราคาสูงถึง 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2,240 ล้านบาท โดยนาย David MacNeil ผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตพรมติดรถ WeatherTech ในสหรัฐฯ ได้ซื้อต่อมาจากนักสะสมชาวเยอรมันคนหนึ่ง ซึ่งรถคันนี้มีเลข Serial Number 4153 GT เป็นรถที่ลงทำการแข่งขันหลายรายการ ทั้งชนะที่ Tour de France ในปี 1964, เข้าเป็นตำแหน่งที่ 4 การแข่งขัน Le Mans 24 Hours เมื่อปี 1963 และที่สำคัญคือ รถคันนี้ไม่เคยแข่งแล้วเกิดอุบัติเหตุเลย
Ferrari 250 GTO ผลิตขึ้นมาในระหว่างปี 1962 – 1964 ผลิตขึ้นมาเพื่อทำการแข่งขันโดยเฉพาะ ทำมาเพียง 39 คันเท่านั้น ราคาขายในตอนนั้นอยู่ที่ราว 18,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 576,000 บาทเท่านั้น
1962 Ferrari 250 GTO ทุบสถิติรถยนต์ประมูล ราคาสูงที่สุดในโลก 48.4 ล้าน USD (ราว 1,583 ล้านบาท)
สถิติราคารถยนต์ปิดประมูลที่ปิดสูงที่สุดในโลก ได้เกิดขึ้นใหม่อีกครั้งกับ 1962 Ferrari 250 GTO คันในภาพ ด้วยมูลค่า 48.405 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 1,538 ล้านบาท) ทุบสถิติครั้งล่าสุดที่เป็นของรถยนต์รุ่นเดียวกัน ซึ่งออกประมูลในปี 2014 และปิดประมูลด้วยมูลค่า 38.1 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 1,246 ล้านบาท)
การประมูล 1962 Ferrari 250 GTO คันนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ในงาน Monterey Car Week ณ รัฐ California ประเทศสหรัฐฯ โดย RM Sotheby’s ส่วนราคาเปิดประมูลอยู่ที่ 35 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 1,145 ล้านบาท) และมีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ราคาปิดอาจพุ่งสูงสุดถึง 60 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 1,962 ล้านบาท)
ส่วนสาเหตุที่ 1962 Ferrari 250 GTO มีราคาสูงมาก เนื่องจากค่ายม้าพยศได้ผลิตขึ้นมาเพียง 36 คันเท่านั้น โดยคันนี้มีหมายเลขตัวถัง 3413 ถือเป็นคันที่ 3 ของการผลิต ถือกำเนิดช่วงปลายเดือนเมษายนปี 1962 ในฐานะ Series-1 แต่รถยนต์คันนี้เป็น 1 ใน 4 คัน ที่ผ่านการดัดแปลงเป็นรุ่น Series-2 หรือ รุ่นปี 1964 โดย Scaglietti ทั้งยังเป็น 1 ใน 7 คัน ที่ใส่ชุดแต่งพิเศษอีกด้วย
เนื่องจาก 1962 Ferrari 250 GTO ถือกำเนิดเป็นรถแข่ง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใจที่หลายคันจะมีอันเป็นไป ไม่ว่าจะเป็นตัวถังกระเจิง หรือ เครื่องยนต์กระจาย แต่ไม่ใช่กับเจ้าม้าพยศคันนี้ ที่ยังใช้ของเดิมจากโรงงานทั้งหมด การันตีด้วยเครื่องยนต์ เกียร์ และเฟืองท้าย มีรหัสตรงกับหมายเลขตัวถัง จนผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบ Ferrari ออกปากเลยว่า นี่คือหนึ่งในคันที่สวยที่สุดในรุ่น
สภาพดีขนาดนี้ หลายคนคงนึกว่า 1962 Ferrari 250 GTO คันในภาพ ไม่เคยผ่านการทารุณกรรมเลย แต่ความจริงแล้วนี่คือ รถแข่งดีกรีแชมป์ไม่ต่ำกว่า 15 รายการ ระหว่างปี 1962 – 1965 และตลอดเวลาที่ผ่านมา ม้าพยศคันนี้ได้ผ่านมือนักสะสมมาแล้วหลายราย และพวกเขาก็พามันออกงานอยู่อย่างสม่ำเสมอ โดยรายล่าสุดนั้น เป็นเจ้าของมันมานานถึง 18 ปี กว่าจะยอมปล่อยมือ
ด้วยเกียรติประวัติทั้งหมดที่เล่ามา จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า เหตุใด 1962 Ferrari 250 GTO คันนี้ ถึงสร้างสถิติราคาปิดประมูลได้ชนิดขนหัวลุก แต่ในอนาคตรถยนต์รุ่นนี้ จะกลับมาทุบสถิติราคาปิดประมูล อีกเป็นครั้งที่ 3 หรือไม่ โปรดติดตามชม

