ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
Mercedes-Benz Stromlinienwagen ปี 1954 คว้าตำแหน่งที่ 2 ของรถประมูลแพงที่สุดในโลก
21 Feb 2025

ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Mercedes-Benz กลับมาคว้าอันดับ 1-2 ของโลกอีกครั้ง หลังจากเคยทำได้มากแล้วในปี 1954 ทีม Mercedes ส่งรถแข่ง W196 Stromlinienwagen เข้าร่วมการแข่งขันจีพีครั้งแรกที่ประเทศฝรั่งเศส และเข้าเส้นชัยอันดับที่ 1-2

จนปัจจุบันใน 71 ปีต่อมา Mercedes ครองอันดับที่ 1-2 อีกครั้ง โดยติดอันดับรถประมูลที่มีราคาแพงที่สุดสองอันดับแรก ล่าสุดในการประมูลรถแข่ง Stromlinienwagen หมายเลขแชสซิส 00009/54 จบราคาประมูลที่ 51.2 ล้านยูโร หรือ 1,788 ล้านบาท จากการประมูลเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

เมื่อปี 1965 Mercedes มอบรถแข่ง Stromlinienwagen หมายเลขแชสซิส 00009/54 ให้พิพิธภัณฑ์อเมริกัน จนต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในนามของพิพิธภัณฑ์อินเดียนามอเตอร์สพีดเวย์ ต้องการประมูลรถเพื่อหาทุนบูรณะรถ โดย RM Sotheby จัดประมูลที่พิพิธภัณฑ์ Mercedes-Benz ในชตุทท์การ์ท เมื่อจบการประมูลครั้งนี้ รถแข่ง Mercedes คว้าอันดับ 2 ของรถประมูลราคาแพงที่สุดในโลก โดยเป็นรอง Mercedes-Benz 300 SLR Uhlenhaut Coupe ซึ่งจบราคาประมูลที่ 143 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3,006 ล้านบาท) เมื่อปี 2565

รถแข่งหมายเลขแชสซิส 00009 เริ่มการทดสอบในเดือนธันวาคม 1954 ในรูปแบบของรถแข่งล้อเปิด และลงแข่งครั้งแรกในฤดูกาล 1955 ที่สนามอาร์เจนตินา ซึ่งไม่ใช้คลาสส์ F1 โดย Juan Manuel Fangio เป็นผู้ขับรถแข่งรหัส W196 เครื่องยนต์ M196 ขนาด 3.0 ลิตร พร้อมเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ

รถแข่ง W196 หมายเลขแชสซิส 00009 จบเส้นทางการแข่งขันที่ประเทศอิตาลี ในเดือนกันยายน ปี 1955 โดย “ท่านเซอร์” Stirling Moss ลงแข่งด้วยบอดีล้อปิด ที่มีความลู่ลม และสมรรถนะสูง แต่ต้องจบการแข่งขันในรอบที่ 27 จากปัญหาเครื่องยนต์ หลังจากทำสถิติความเร็วต่อรอบสูงสุดที่ 134 ไมล์/ชม. หรือ 215.65 กม./ชม.

Mercedes ผลิตตัวรถแบบลู่ลม หรือ Streamliner Bodies จากวัสดุแมกนีเซียม มีน้ำหนักเพียง 88 ปอนด์ (40 กก.) โดยผลิตจำนวนจำกัด สำหรับใช้ในการแข่งขันความเร็วสูง ช่วงฤดูกาล 1954-1955 รถแข่งหมายเลขแชสซิส 00009 เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ความเร็ว และขับโดยนักแข่งระดับไอคอน จึงไม่น่าแปลกใจที่สามารถติดอันดับรถประมูลราคาสูงได้
พระเจ้า! 1963 Ferrari 250 GTO ทุบสถิติโลก ขายต่อด้วยราคา 1,600 ล้านบาท

โดย Satapana
โพสต์เมื่อ 05 October 2556
1963 Ferrari 250 GTO รถแข่งสุดยอดแห่งความคลาสสิกกลายเป็นรถที่มีราคาขายต่อแพงที่สุดในโลกด้วยตัวเลข 52 ล้านเหรียญฯ หรือกว่า 1,600 ล้านบาท
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เจ้าของ 250 GTO รุ่นปี 1963 คันนี้คือ Paul Pappalardo นักสะสมรถชาวอเมริกันซึ่งขายต่อให้แก่มหาเศรษฐีนิรนามด้วยราคา 52 ล้านเหรียญฯ เทียบเป็นเงินไทยเวลานี้ก็อยู่ที่ 1,625 ล้านบาท ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่ารถคลาสสิกของ Ferrari ปรับตัวสูงขึ้นมากในช่วงหลายปีหลังสุด โดย 250 GTO เปรียบได้กับงานศิลปะ “โมนาลิซ่า” แห่งโลกยานยนต์เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามหลายฝายเกิดความวิตกกังวลว่าราคาที่ถีบตัวสูงขึ้นอย่างน่ากลัวจะทำให้ฟองสบู่แตกในไม่ช้า
250 GTO คันประวัติศาสตร์ประทับหมายเลขตัวถัง 5111 เคยเข้าร่วมการแข่งขันและคว้าแชมป์ 1963 Tour de France (เวอร์ชั่นรถแข่ง) ขับโดยนักแข่งชาวฝรั่งเศส Jean Guichet
สำหรับรถแข่ง 250 GTO เริ่มผลิตครั้งแรกเมื่อปี 1962 เพื่อร่วมแข่งขันในหลายรายการ มีจำนวนการผลิตจำกัดเพียง 39 คันเท่านั้นในโลก ถือเป็นรถที่หายากที่สุดและเป็นที่ต้องการที่สุดมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับสถิติรถราคาแพงที่สุดในโลกเดิมคือ 1962 Ferrari 250 GTO ขับโดยท่านเซอร์สเตอริง มอสส์ ซึ่งมีราคาขาย 35 ล้านเหรียญฯเมื่อปี 2012 นั่นหมายความว่าราคาขายปรับตัวสูงขึ้นถึง 49% ภายในปีเดียว เชื่อว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ราคาจะแตะระดับ 100 ล้านเหรียญฯ แน่นอน

