เปิดบ้าน 10 เศรษฐีเมืองไทย อลังการ หรูหราอย่างกับวัง !
312,793อ่าน

เปิดบ้านเศรษฐีเมืองไทย แต่ละหลังเรียกว่าไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ ทั้งขนาดของบ้านที่ใหญ่โตกับการตกแต่งภายในสุดหรูหรา อลังการ สมฐานะของพวกเขาจริง ๆ
คำว่าบ้านในฝันไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับเศรษฐีเมืองไทยทั้ง 10 คนนี้ เพราะบ้านแต่ละหลังนั้น นอกจากมูลค่าบ้านจะแตะหลักสิบล้านและร้อยล้านแล้ว การตกแต่งภายในขอบอกเลยว่าอลังการยิ่งกว่า บางหลังถึงขนาดมีอ่างอาบน้ำทองคำแท้ พอได้ฟังแบบนี้ชักอยากจะรู้แล้วใช่ไหมคะว่า เศรษฐีเหล่านี้เขาเป็นใครกัน ทำงานอะไรถึงได้รวยทรัพย์ขนาดนี้ แถมยังมีบ้านหลังใหญ่โตอย่างที่คนธรรมดาก็ยากจะเอื้อมถึง กระปุกดอทคอมก็จะพาทุกคนไปเปิดประตูบ้านของบรรดาเศรษฐีเมืองไทยเหล่านี้กันเลย
1. คุณสุมณี คุณะเกษม
เรียกได้ว่าเป็นไฮโซชื่อดังที่ไม่มีใครไม่รู้จักอย่างแน่นอน คุณสุมณี คุณะเกษม เป็นที่เลื่องลือถึงความหรูหราอลังการงานสร้างในทุก ๆ อย่าง ตั้งแต่ลืมตาตื่นนอนไปยันการรับประทานอาหาร การแต่งกาย รวมถึงการตกแต่งบ้านสุดอลังการที่ทุกคนต่างให้ความสนใจ เพราะทั้งบ้านประดับประดาไปด้วยของแต่งบ้านสุดล้ำค่า ของสะสมเก่าแก่ เฟอร์นิเจอร์ชิ้นดังจากทั่วโลก แค่เก้าอี้ก็ปาเข้าไป 19 ล้านแล้ว แถมยังมีอ่างอาบน้ำทองคำแท้ 24k ด้วย






ภาพจาก รายการเดอะ เกสท์ (The Guest)
2. คุณมงคล สุขเจริญคณา
หลายคนอาจจะเคยเห็นบรรยากาศความหรูหราภายในคฤหาสน์หลังงามหลังนี้ ผ่านฉากละครดังกันมาบ้างแล้ว ซึ่งคุณมงคล สุขเจริญคณา ประธานสหกรณ์ประมงแม่กลอง นักธุรกิจพันล้านคนนี้นี่แหละค่ะ ที่เป็นเจ้าของคฤหาสน์มูลค่า 500 ล้านบาทตัวจริง ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 4 ไร่เศษ ภายในตกแต่งด้วยสไตล์ยุโรปและคอนเทมโพรารี ส่วนมูลค่าของของแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ก็ไม่ธรรมดา แค่ชุดรับแขกราคาเหยียบ 7-8 แสนบาทแล้ว แถมยังมีเสาบ้านตกแต่งด้วยทองคำ เลอค่าขนาดนี้ถ้าไม่เรียกว่าคฤหาสน์ก็ขนานนามอย่างอื่นไม่ถูกแล้วจริง ๆ






ภาพจาก รายการเดอะ เกสท์ (The Guest)
3. คุณเป็ด สุภี พงษ์พานิช
เป็นเซเลบที่เราเห็นหน้าค่าตาในงานวงสังคมชั้นสูงอยู่บ่อยครั้ง คุณเป็ด สุภี พงษ์พานิช ที่ปรึกษาธนาคารไทยพาณิชย์ เจ้าแม่วงการธนาคาร ซึ่งบรรยากาศภายในรั้วบ้านของเธอนั้น ดูโล่งโปร่งสบาย บ้านตั้งอยู่บนเนื้อที่เกือบ 2 ไร่ เป็นที่ดินเก่าแก่ แม้สวนด้านนอกจะรายล้อมไปด้วยต้นไม้นานาชนิด แต่ก็ดูเป็นระเบียบไม่รกทึบ ส่วนภายในเน้นความเรียบง่าย ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์และของใช้ที่ดูโล่งสะอาดและสบายตา ให้บรรยากาศอบอุ่นน่าอยู่มาก ๆ เลย






ภาพจาก รายการเดอะ เกสท์ (The Guest)
4. คุณอ้วน จักรพันธ์ ประจวบเหมาะ
หนึ่งในคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จและก้าวเข้ามายืนอยู่ในจุดเศรษฐีพันล้านได้อย่างรวดเร็ว คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก คุณอ้วน จักรพันธ์ ประจวบเหมาะ นักธุรกิจมือทองเจ้าของฉายา มิสเตอร์พันล้าน ที่สร้างธุรกิจเริ่มจากการทำน้ำดื่มขาย จนมาเป็นเจ้าของหลายธุรกิจ ตั้งแต่รถมอเตอร์ไซค์ จักรยาน ไอที โฆษณา รวมไปถึงบริษัทเงินทุนหลายแห่ง หลังจากประสบความสำเร็จอย่างที่ฝันไว้ เขาก็จัดการสานฝันของตัวเองด้วยการเป็นเจ้าของบ้านหลังโต มูลค่ารวมตกแต่งอยู่ที่ 30 ล้านบาท ภายในก็ตกแต่งแบบเรียบหรู มีความโมเดิร์นแบบผสมผสาน และห้องนั่งเล่นส่วนตัวที่เก็บสะสมของเล่น เครื่องดนตรี และตู้เกมที่คุณอ้วนชอบเป็นพิเศษ







ภาพจาก รายการเดอะ เกสท์ (The Guest)
5. ป๋าต๊อบ-ปีใหม่
เรียกได้ว่าเป็นสาวหล่อแห่งวงสังคมชั้นสูงที่ทุกคนรู้จักเป็นอย่างดี ป๋าต๊อบ ปฏิญญา ควรตระกูล ทายาทนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หมื่นล้านในเครือปัญญากรุ๊ป คนรักของสาว ปีใหม่ สุมนต์รัตน์ ซึ่งคฤหาสน์ของทั้งคู่นั้นก็หรูหราและอลังการงานสร้างมาก ภายนอกมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ส่วนภายในก็ตกแต่งในแนวหรูหรา รวมทั้งดัดแปลงห้องส่วนตัวห้องเก่าให้เป็นที่อ่านหนังสือ แถมห้องฟิตเนสก็ดูกว้างขวางไม่แพ้กัน ซึ่งจุดไฮไลท์จะอยู่ตรงห้องน้ำที่มีการเพ้นท์ลวดลายใต้ท้องทะเลสวยงามราวกับกำลังดำดิ่งลงในมหาสมุทรเลยล่ะ






ภาพจาก อินสตาแกรม peetop และ รายการ WOODYTALK
6. ไฮโซม่านฟ้า
“ไฮโซม่านฟ้า” เมื่อพูดถึงชื่อนี้ทีไร เป็นอันต้องนึกถึงประเด็นข่าวฮอต ๆ ทุกที แต่หารู้ไม่ว่าที่จริงแล้วนั้นเธอคือ ว่าที่ ดร.อรปภัตร จันทรสาขา ที่รั้งตำแหน่งนางงามและนักธุรกิจมือทองพ่วงท้ายมาด้วย เธอสร้างฐานะให้กับตัวเองด้วยการทำธุรกิจด้านความงามและด้านอื่น ๆ อีกมากมาย แม้ฐานะทางบ้านของเธอจะมั่งคั่งอยู่แล้วก็ตาม แต่เธอก็ขยันทำมาหากินจนทำให้ชีวิตของไฮโซม่านฟ้าดูหรูหราไปหมดซะทุกอย่าง รวมทั้งบ้านของเธอเอง ที่จะเห็นได้ว่าการตกแต่งนั้นไม่ธรรมดา ดูหรูหราในสไตล์ยุโรป เน้นใช้โทนสีทองซะส่วนใหญ่ และแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ดูนุ่มสบาย





ภาพจาก อินสตาแกรม marnfha
7. คุณชูชัย ชัยฤทธิเลิศ
จากอดีตที่เคยยากจน สู่นักธุรกิจพ่อค้าเพชรและอัญมณีชื่อดัง เจ้าของธุรกิจในเครือเจมพีซ กรุ๊ป เพราะมีใจรักในความงามของเพชร จึงทำให้เราเดาได้ไม่ยากเลยว่า บ้านของคุณชูชัยจะต้องหรูหราอย่างแน่นอน ซึ่งคฤหาสน์หลังนี้ก็มีมูลค่าถึง 200 ล้านบาทเลยทีเดียว ด้านนอกตกแต่งด้วยต้นไม้มากมายเป็นสวนที่ให้บรรยากาศความร่มรื่น มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ส่วนภายในตกแต่งในสไตล์ฝรั่งเศสและของตกแต่งมูลค่าสูงมาประดับไว้ ตั้งแต่โถงทางเดิน ตลอดจนห้องทานอาหร ห้องรับแขก ห้องนอน ห้องน้ำ และห้องสปา







ภาพจาก รายการเดอะ เกสท์ (The Guest)
8. คุณแมงมุม หม่อมราชวงศ์ศรีคำรุ้ง ยุคล
หากพูดถึงเซเลบสายไลฟ์สไตล์ตัวจริง คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก คุณแมงมุม หม่อมราชวงศ์ศรีคำรุ้ง ยุคล ที่ตอนนี้ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงในฐานะผู้จัดละครคนเก่ง มีลุคที่ดูเป็นสาวสมัยใหม่ขนาดนี้ มีหรือที่ห้องคอนโดของเธอจะดูธรรมดาสามัญทั่วไป ขนาดทำเลที่ตั้งยังอยู่ใจกลางย่านธุรกิจสุดหรู ดังนั้นการตกแต่งภายในจึงดูดีเป็นพิเศษ ในแบบสไตล์ของเธอ ซึ่งมีไฮไลท์เด็ดที่ห้องครัว เพราะมีการใช้สีสันให้ดูสนุกสนาน แถมยังมีเครื่องกดสเลอปี้ชิค ๆ อีกด้วยล่ะ







ภาพจาก รายการเดอะ เกสท์ (The Guest)
9. คุณหมอของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์
นาทีนี้คงไม่มีคุณหมอคนไหนจะเผ็ดสุดในสามโลกได้เท่า คุณหมอของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ หรือ คุณหมอเคส เจ้าของคลินิกศัลยกรรมชื่อดัง และอีกหนึ่งฉายาที่ทำให้เธอโด่งดังแบบสุด ๆ นั่นก็คือ “เจ้าแม่แอร์เมส” นักสะสมกระเป๋าแบรนด์หรูมากที่สุดในเมืองไทย แถมบ้านของเธอยังเป็นแหล่งสะสมของล้ำค่าอีกมากมาย ภายใต้การตกแต่งที่เน้นสไตล์โมเดิร์นผสมศิลปะสไตล์จีน แม้ในบ้านจะเต็มไปด้วยของมีค่าราคาแพงขนาดไหน แต่เธอก็ไม่กังวลเรื่องขโมย เพราะมีการติดตั้งระบบนิรภัยอย่างดี





ภาพจาก รายการเดอะ เกสท์ (The Guest)
10. จินนี่ เขริกา โชติวิจิตร
ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังของอดีตนักร้องวัยรุ่นชื่อดัง จินนี่ เขริกา โชติวิจิตร เป็นถึงทายาทเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ และเป็นเจ้าของคฤหาสน์หลังโตมูลค่า 100 ล้านบาท ที่ภายในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านจากแบรนด์เวอร์ซาเช่เกือบทั้งหมด อีกทั้งยังดูหรูหราด้วยโทนสีขาว สีครีม และสีทอง ราวกับบ้านหรูในยุโรป ส่วนภายนอกก็ดูร่มรื่นด้วยต้นไม้สีเขียวน้อยใหญ่ เป็นอีกหนึ่งมุมพักผ่อนของบ้านที่น่าอยู่สุด ๆ ไปเลยค่ะ







ภาพจาก อินสตาแกรม jinnychotivichit และ รายการเดอะ เกสท์ (The Guest)
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ พอจะมีบ้านหลังไหนที่ตรงกับบ้านในฝันของคุณบ้างไหมเอ่ย แม้ว่ามูลค่าของบ้านแต่ละหลังจะดูยิ่งใหญ่และยากเกินจะคว้าไว้ แต่ถ้าขยันมากพอและไม่ท้อแท้ไปซะก่อน คุณและใครอีกหลาย ๆ คนก็อาจจะกลายเป็นเศรษฐีที่มีบ้านหรูแบบนี้ก็ได้นะคะ
10 ทำเลที่ดินราคาแพงในกรุงเทพฯ ปี 2567
11 มีนาคม 2024
ที่ดินตรงไหนแพงสุดและถูกสุดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ทำไมจึงต่างกันอย่าง “ฟ้ากับเหว” ถึงเพียงนี้
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) กล่าวว่าทางศูนย์ข้อมูลได้สำรวจราคาที่ดินทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมาตั้งแต่ปี 2537 ทุกปีและพบว่า ราคาที่ดินในใจกลางเมืองบริเวณสยามสแควร์-ชิดลม-เพลินจิต มีราคาสูงถึง 3.6 ล้านบาทต่อตารางวาหรือต้องใช้ธนบัตรใบละ 1,000 บาทปูลาดถึง 10 ชั้นจึงจะได้มูลค่าที่ดินนี้ ถือเป็นราคาที่สูงที่สุด
- 10 ทำเลที่ดินราคาแพงในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พ.ศ.2567
- 10 ทำเลราคาต่ำสุดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล พ.ศ.2567
ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่าราคาที่ดินบนถนนวิทยุแพงที่สุดนั้น เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากไม่มีรถไฟฟ้าวิ่งผ่าน ถึงแม้จะมีการขายห้องชุดในราคาแพงถึงเกือบ 1 ล้านบาทต่อตารางเมตร ก็เป็นเพียงข้อยกเว้น ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ บมจ.แสนสิริก็เคยซื้อที่ดินหลังสวนลุมพินีในปี 2565 ในราคาถึง 3.9 ล้านบาทต่อตารางวามาแล้ว แต่เป็นความพอใจของทั้งผู้ซื้อและผู้ขายและยังสามารถที่จะพัฒนาที่ดินแปลงดังกล่าวเพื่อสร้างอาคารชุดเพื่อขายห้องชุดในราคาเกือบ 1 ล้านบาทต่อตารางเมตรได้
การที่ราคาที่ดินแพงสุดในย่านสยามสแควร์ ชิดลม เพลินจิตก็เพราะเป็นแหล่งค้าปลีกสำคัญของกรุงเทพมหานครและธุรกิจค้าปลีกเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้สูงสุดเมื่อเทียบกับการสร้างเป็นอาคารชุดพักอาศัย อาคารสำนักงานหรือโรงแรม ซึ่งได้ค่าเช่าต่ำกว่า และธุรกิจค้าปลีกยังมีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่อง ส่วนโรงแรมก็ยังมีความไม่แน่นอนทางธุรกิจอยู่มาก จะเห็นได้ว่าพื้นที่ค้าปลีก มีค่าเช่าเดือนละประมาณ 3,000 – 5,000 บาทต่อตารางเมตร ในขณะที่พื้นที่สำนักงานมีค่าเช่าเพียงเดือนละ 800-1,200 บาทเท่านั้น
10 ทำเลที่ดินราคาแพงในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พ.ศ.2567

สำหรับราคาที่ดินที่แพงที่สุดสำรวจโดยศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย ดร.โสภณ นำเสนอว่านอกจากทำเลอันดับ 1 ณ พื้นที่แถวสยาม-ชิดลม-เพลินจิตแล้ว ยังมีทำเลอื่นๆ ได้แก่ วิทยุ สุขุมวิท-ไทม์สแควร์ สุขุมวิท 21 อโศก สีลม สาทร สุขุมวิท เอกมัย เยาวราช พญาไท และพหลโยธินช่วงต้น ทั้งนี้คาดว่าอันดับต่างๆ ยังจะไม่เปลี่ยนแปลงในปี 2567 โดยพื้นที่สยาม-ชิดลม-เพลินจิต จะเพิ่มมูลค่าเป็น 3.75 ล้านบาทต่อตารางวา อย่างไรก็ตามคณะนักวิจัยของศูนย์ข้อมูลฯ จะได้ออกประมวลและวิเคราะห์ให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนราคาที่ดินที่ถูกที่สุด เป็นดังนี้:
ตารางที่ 2: 10 ทำเลราคาต่ำสุดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พ.ศ.2567
| อันดับ | ทำเล | ราคา (บาท/ตารางวา) |
|---|---|---|
| 1 | เลียบคลอง 13 กม.5 | 4,200 |
| 2 | ตรงข้ามศูนย์ศิลปาชีพบางไทร | 8,000 |
| 3 | กาญจนาภิเษก กม.34 | 9,000 |
| 4 | กาญจนาภิเษก กม.8 บางปะอิน | 9,400 |
| 5 | เลียบคลองรพีพัฒน์ | 9,800 |
| 6 | สุขุมวิท กม.46 บางบ่อ | 9,800 |
| 7 | รังสิต-วังน้อย | 10,500 |
| 8 | ลำต้อยติ่ง | 11,000 |
| 9 | ประชาสำราญ | 12,000 |
| 10 | กาญจนาภิเษก กม.23 หลวงแพ่ง | 13,500 |
ที่มา: ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
จะสังเกตได้ว่าราคาที่ดินที่ต่ำที่สุดมักอยู่ในบริเวณเขตนอกเมือง โดยเฉพาะที่ไม่มีระบบสาธารณูปโภคหรือระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ ราคาจึงต่ำและตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทยสำรวจมา ราคาก็ปรับขึ้นไม่มาก เพียงปีละ 1-2% เท่านั้น ยกเว้นในช่วงหลังๆ ที่ความเป็นเมืองได้ขยายตัวออกสู่รอบนอกมากขึ้นบ้าง
จะเห็นได้ว่า สยามสแควร์-ชิดลม-เพลินจิต มีราคาสูงถึง 3.6 ล้านบาทต่อตารางวา เพราะเป็นแหล่งค้าปลีกสำคัญของกรุงเทพมหานคร และธุรกิจค้าปลีกเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้สูงสุด นักลงทุนจึงต้องศึกษาก่อนการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ให้ดี เพื่อให้มีความเสี่ยงในการลงทุนน้อยที่สุด ดังนั้น โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ที่เป็นสถาบันอบรมระดับนานาชาติ จึงให้ความสำคัญเกี่ยวกับความรู้ด้านอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างมาก จึงได้จัดคอร์สอบรมด้านอสังหาฯ ทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาวขึ้นเพื่อให้คนที่สนใจหรืออยู่ในวงการได้หาความรู้และศึกษานั่นเอง
