• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N2208045 เด กท นท เราอ ปการะมาโดยตลอด แท ไม างจากน กต มต นเลย part 2

admin79 by admin79
August 30, 2025
in Uncategorized
0

เผย 5 ยี่ห้อรถยนต์ที่ฮิตสุดในไทย ปี 2567 ซื้อง่ายขายมือสองก็ดี

เคล็ดลับซื้อขายรถ | 26 ส.ค. 2567

5 ยี่ห้อรถยนต์ที่น่าเชื่อถือมากที่สุด ปี 2567 | ประกันรถยนต์ | รู้ใจ

คุณใช่ไหมที่ “อยากมีรถ” กำลังมองหารถมาใช้สักคัน แต่ไม่รู้ว่าควรจะซื้อรถยี่ห้อไหน รุ่นอะไร เพราะมียี่ห้อรถยนต์ให้เลือกเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อรถไฟฟ้า, ยี่ห้อรถสปอร์ต, ยี่ห้อรถมอเตอร์ไซค์ ฯลฯ แถมยี่ห้อรถแต่ละแบรนด์ยังมี “ความโดดเด่น” แตกต่างกันออกไป โดยความนิยมที่รู้ใจหยิบยกขึ้นมาในวันนี้คือความนิยมด้านความน่าเชื่อถือของแบรนด์ จึงได้รวบรวมแต่ละยี่ห้อมาให้ทำคุณได้รู้จัก ซื้อง่ายขายมือสองก็ราคาดี แบรนด์ไหนน่าสนใจยังไงบ้าง ตามไปดูพร้อม ๆ กันเลยกับบทความนี้

สนใจอ่านแค่บางเรื่อง ก็เลือกได้เลย!
  • 5 อันดับยี่ห้อรถยอดฮิตที่น่าเชื่อถือมากที่สุดในปี 2567
  • ในปี 2567 รถไฟฟ้าในไทย ยังน่าเล่นอยู่มั้ย?
  • เลือกซื้อรถยังไงให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด?

5 อันดับยี่ห้อรถยอดฮิตที่น่าเชื่อถือมากที่สุดในปี 2567

ยุคนี้ว่าด้วยเรื่องของรถยนต์ นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ใช้ชีวิตโดยเฉพาะในเมือง “ควรมี” เพราะมันช่วยให้การใช้ชีวิตของคุณและครอบครัวง่ายขึ้น หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่อยากมีรถเป็นของตัวเองไว้ใช้สักคัน แต่ยังไม่รู้ว่าจะซื้อยี่ห้อไหนดี ลองมาทำความรู้จัก 5 ยี่ห้อรถยนต์ยอดฮิตที่น่าเชื่อถือในแบรนด์กันหน่อยดีกว่า

โตโยต้า (Toyota) อันดับ 1 ยี่ห้อรถยนต์ที่น่าเชื่อถือมากที่สุด | รู้ใจ

1. โตโยต้า (Toyota)

“โตโยต้า” เป็นหนึ่งในยี่ห้อรถยนต์รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงระดับโลก และยังมียอดขายสูงที่สุด ไม่ว่าจะในประเทศไทยหรือต่างประเทศก็ตาม โดยผลิตและจำหน่ายรถยนต์หลากหลายรุ่น ตั้งแต่รถเก๋ง รถกระบะ รถ SUV ไปจนถึงรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า มีความน่าเชื่อถือเป็นอันดับต้น ๆ ด้วยความโดดเด่นในเรื่อง “ความทนทาน” แถมยังมาพร้อมกับการขับขี่ที่แสนเพลิดเพลิน ช่วยให้การขับขี่ไร้ที่ติ และสนุกสนานตลอดเส้นทาง

ฮอนด้า (Honda) อันดับ 2 ยี่ห้อรถยนต์ที่น่าเชื่อถือมากที่สุด | รู้ใจ

2. ฮอนด้า (Honda)

“ฮอนด้า” มีความโดดเด่นในเรื่องเครื่องยนต์เป็นพิเศษ​ สามารถขับรถระยะทางไกลได้สบาย ๆ โดยอายุการใช้งานปกติจะอยู่ที่ 200,000 ไมล์ และในปัจจุบันยังได้มีการเจาะตลาดยี่ห้อรถยนต์ไฟฟ้ามาแรง ภายใต้สายการผลิต “Honda e:N1 ยนตรกรรมเอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100%” อีกด้วย

มาสด้า (Mazda) อันดับ 3 ยี่ห้อรถยนต์ที่น่าเชื่อถือมากที่สุด | รู้ใจ

3. มาสด้า (Mazda)

มาสด้าเป็นแบรนด์รถยนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย หากพูดถึงจุดเด่นคงไม่พ้นในเรื่องการออกแบบและเทคโนโลยีที่ทันสมัย Mazda สะท้อนความน่าเชื่อถือในการใช้งาน มอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและตอบสนองดี กับสโลกแกน Zoom-Zoom ที่สื่อสารด้วยเครื่องยนต์ SkyActiv ที่มีประสิทธิภาพสูงและประหยัดน้ำมัน

ในด้านบริการหลังการขายของมาสด้าได้รับการยอมรับ ศูนย์บริการมีความครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้เจ้าของรถมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลรักษาอย่างดี นอกจากนี้คุณภาพตัวรถ Mazda ยังถูกเน้นในเรื่องความปลอดภัยสูงที่ได้มาตรฐานสากล พร้อมกับตัวเลือกประเภทรถที่หลากหลาย ทั้งเก๋งกระบะแบรนด์นี้มีให้ครบ

อีซูซุ (Isuzu) อันดับ 4 ยี่ห้อรถยนต์ที่น่าเชื่อถือมากที่สุด | รู้ใจ

4. อีซูซุ (Isuzu)

อีซูซุเป็นแบรนด์รถยนต์ที่ได้รับความน่าเชื่อถือในด้านความทนทานและประสิทธิภาพในการใช้งาน เป็นที่ยอมรับของคนใช้กระบะในบ้านเรามาอย่างยาวนาน ยิ่งในหมวดรถบรรทุกและรถเพื่อการพาณิชย์แบรนด์นี้เป็นที่นิยมอย่างมากในหลายประเทศ

นอกจากความอึด ถึก ทน ของตัวรถ เรื่องบริการหลังการขายของ Isuzu ยังได้รับคำชมในเรื่องการบริการที่รวดเร็วและมีคุณภาพ มีศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศและมีการจัดหาชิ้นส่วนที่รวดเร็ว ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลอย่างเต็มที่จากทีมงานผู้เชี่ยวชาญของอีซูซุ

ฟอร์ด (Ford) อันดับ 5 ยี่ห้อรถยนต์ที่น่าเชื่อถือมากที่สุด | รู้ใจ

5. ฟอร์ด (Ford)

อีกหนึ่งยี่ห้อรถที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ “ฟอร์ด” ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องยนต์ขั้นสูง มีประสิทธิภาพและสมรรถนะยอดเยี่ยม โดยเฉพาะเครื่องยนต์รุ่น 5.0 Coyote V8 and 3.5 V6 EcoBoost ที่มีอายุการใช้งานเครื่องยนต์ที่ยาวนานกว่าที่เจ้าของรถคาดการณ์ไว้

สำหรับ 5 อันดับยี่ห้อรถยนต์น่าเชื่อถือและน่าซื้อที่เรานำมาบอกต่อเมื่อข้างต้น นอกจากจะเหมาะกับการซื้อรถมาใช้งาน เดินทางระยะทางไกลแล้ว หากอยากขายรถเป็น “รถมือสอง” ราคาก็ไม่ตกมาก เนื่องจาก “สมรรถนะ” ของเครื่องยังคงโดดเด่น เร็ว แรง ไม่แพ้ใคร แต่ถ้าหากเป็น “รถไฟฟ้า” อาจต้องดูแนวโน้มและกระแสในช่วงนี้ก่อน ว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน คุ้มค่าแก่การจับจองเป็นเจ้าของหรือไม่

ในปี 2567 รถไฟฟ้าในไทย ยังน่าเล่นอยู่มั้ย?

หลังจากรู้คร่าว ๆ แล้วว่าในปี 2567 ยี่ห้อรถยนต์ไหนบ้างที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ แต่มีอีกหนึ่งประเด็นที่หลายคนกำลังจับตามอง สำหรับ “ยี่ห้อรถไฟฟ้า” ว่ายังน่าเล่น น่าจับจองอยู่มั้ย? หลังจากมีข่าวไม่ค่อยดีออกมาเยอะพอสมควร ถ้าอย่างนั้นเราไปดู “แนวโน้ม” การซื้อรถและการขายรถยนต์ไฟฟ้ากันเลยดีกว่า

คนนิยมรถยนต์ไฟฟ้าหรือไม่?

แม้ว่าช่วงนี้จะมีข่าวในแวดวงรถยนต์ไฟฟ้าที่น่ากังวลใจ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ายี่ห้อรถไฟฟ้าที่นำเข้ามาจัดจำหน่ายในไทย รวมถึงแบรนด์อื่น ๆ ในท้องตลาดที่หันมาทำรถยนต์ไฟฟ้า กลับได้รับการยอมรับมากขึ้น และมีแนวโน้มว่ายอดขายจะไปอยู่ที่รถยนต์ประเภทนี้เป็นส่วนใหญ่

และที่บอกว่ารถยนต์ไฟฟ้าแมสแล้ว เป็นเพราะประเภทรถยนต์ EV ที่หลากหลาย สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้หลายกลุ่ม และถึงแม้ว่าจะมีข้อจำกัดในเรื่องต่าง ๆ เช่น สถานีชาร์จไฟฟ้า, การติดตั้งสถานีชาร์จที่บ้าน หรืออื่น ๆ แต่ในเรื่อง “ภาษีรถยนต์ไฟฟ้า” ก็ยังถูกมาก

ปี 2567 แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าดีขึ้น แต่ราคาถูกลงจริงมั้ย?

อีกหนึ่งประเด็นที่หลายคนไม่ค่อยกล้าซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะซื้อรถมือหนึ่งหรือซื้อรถมือสองก็ตาม เป็นเพราะยังคงกังวลในเรื่อง “แบตเตอรี่” เนื่องจากมีราคาสูงมาก ๆ ทำให้ค่าเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าสูงตามไปด้วย แต่ความกังวลดังกล่าวจะหมดไปในอนาคตแน่นอน

เพราะมีแนวโน้มว่า “ต้นทุนแบตเตอรี่รถ EV จะถูกลง” เพราะบริษัทต่าง ๆ กำลังพัฒนาและวิจัยนวัตกรรมแบตใหม่เพื่อลดต้นทุน ทำให้มีโอกาสจะได้เห็นแบตรถยนต์ไฟฟ้าที่ปลอดภัย น้ำหนักเบา และมีประสิทธิภาพดีมากขึ้นในอนาคต

แต่ไม่ว่าคุณจะสนใจยี่ห้อรถยนต์ยี่ห้อไหน ทั้งยี่ห้อรถไฟฟ้าในไทย, ยี่ห้อรถสปอร์ต ฯลฯ สิ่งหนึ่งที่ละเลยไม่ได้เลยก็คือ “ประกันรถยนต์” ที่ให้ความคุ้มครองอุ่นใจ ไม่ว่าคุณจะใช้รถยี่ห้ออะไรก็ตาม หาอยากได้ประกันที่ครอบคลุม ราคาสบายกระเป๋า รู้ใจเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะลดสูงสุด 30% ผ่อนสบาย 10 เดือน แถมเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่สำคัญเคลมไม่ยาก!

รถยนต์ไฟฟ้าที่นิยมในไทย | ประกันรถยนต์ไฟฟ้า | รู้ใจ

เลือกซื้อรถยังไงให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด?

หลังจากทำความเข้าใจรายละเอียดต่าง ๆ มาอย่างดีแล้ว ทั้งในเรื่องของยี่ห้อรถยนต์ ที่ได้รับความนิยมในปี 2567 การเลือกซื้อรถยนต์ ทั้งแบบเครื่องยนต์สันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้า แต่หลายคนก็ยังคงสับสนเหมือนเดิม เพราะไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้ว “ตัวเองเหมาะกับรถประเภทไหน”

กลัวว่าถ้าหากซื้อมาแล้วไม่ถูกใจ จะขายรถมือสองก็กลัวจะขายไม่ได้ ตกรุ่น ราคาไม่ดี หรือใด ๆ ก็ตาม ถ้าอย่างนั้นเรามาดู “สิ่งที่ต้องคำนึงถึง” ก่อนตัดสินใจซื้อรถกันดีกว่า เพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อรถได้ง่ายยิ่งขึ้น

  1. การใช้งาน สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก คือเรื่อง “การใช้งาน” แนะนำให้ถามตัวเองก่อนว่าซื้อรถไปทำอะไร ออกต่างจังหวัดบ่อยมั้ย ปกติโดยสารไปทั้งหมดกี่คน เพราะการซื้อรถด้วยความคิดที่ว่า “ซื้อเผื่อ” ซื้อใหญ่ไว้ก่อนตอบโจทย์กว่า อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเสมอไป โดยเฉพาะคนที่ใช้รถคนเดียวบ่อย ๆ รถใหญ่อาจเทอะทะเกินความจำเป็น แถมยังต้องควักเงินจ่ายมากกว่ารถคันเล็ก ๆ หลายแสนกันเลยทีเดียว
  2. หาข้อมูลให้ได้มากที่สุด อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ “ข้อมูล” เพราะการจะเลือกจากยี่ห้อรถยนต์ที่เป็นยี่ห้อดังเพียงอย่างเดียว อาจไม่ใช่การเลือกที่ดีสักเท่าไหร่ แนะนำให้เข้ากลุ่มใน Facebook เพื่อเก็บข้อมูลว่ายี่ห้อรถที่คุณสนใจ มีข้อดี ข้อจำกัดเรื่องไหนบ้าง โดยเฉพาะศูนย์ซ่อมหรือร้านซ่อมรถ เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจก่อนเลือกซื้อ
  3. โอกาสในการขายต่อ หากคุณเป็นคนเบื่อง่าย หรือมั่นใจว่าจะขายรถต่อในอนาคต แนะนำให้เลือกซื้อรถยนต์ที่เป็นที่นิยม ติดตลาดอยู่ตลอด หรืออาจจะเป็นยี่ห้อรถยนต์ที่ซื้อขายง่าย อะไหล่หาไม่ยาก แถมยังมีศูนย์บริการ อู่ซ่อมรถค่อนข้างเยอะ ก็จะช่วยให้ขายง่ายขึ้นกว่ารถไฟฟ้าที่มีข้อจำกัดในเรื่องนี้ แถมยังต้องซ่อมกับศูนย์ซ่อมรถเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

10 อันดับ ยอดขายรถยนต์ ปี 67 (9 เดือนแรก) ใครคือเบอร์ 1 .ในประเทศไทย

9 พ.ย. 67

23:55 น.

facebook
x
line
  • copylink

อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกำลังเผชิญหน้ากับช่วงเวลาแห่งความผันผวน ปัจจัยลบรุมเร้า ทั้งเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ หนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูง และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์ในประเทศอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งมียอดจำหน่ายตกต่ำที่สุดในรอบ 53 เดือน

ท่ามกลางความท้าทาย ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นยังคงครองอำนาจ แต่ก็ไม่อาจประมาท การมาของแบรนด์รถยนต์จากจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์พลังงานไฟฟ้า กำลังเขย่าบัลลังก์ และสร้างแรงกดดันอย่างหนัก บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกภาพรวมตลาดยานยนต์ไทยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 วิเคราะห์ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบ พร้อมสำรวจโอกาสและความท้าทาย เพื่อหาคำตอบว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยจะสามารถฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างไร

10 อันดับ ยอดขายรถยนต์ ปี 67 (9 เดือนแรก) ใครคือเบอร์ 1 .ในประเทศไทย

10 อันดับ ยอดขายรถยนต์ ปี 67 (9 เดือนแรก) ใครคือเบอร์ 1 .ในประเทศไทย

อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม – กันยายน) กำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์รวมมียอดจำหน่ายเพียง 39,048 คัน ซึ่งลดลง 37.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งอยู่ที่ 15,668 คัน ลดลง 38.4% ขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มียอดจำหน่าย 23,380 คัน ลดลง 36.2% ส่วนรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดจำหน่าย 13,972 คัน ลดลงถึง 40.1%

ถึงแม้ตลาดยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) จะเป็นที่จับตามองในฐานะอนาคตของอุตสาหกรรม แต่ในเดือนกันยายน 2567 ยอดจำหน่าย xEV กลับลดลง 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมียอดจำหน่ายรวม 13,102 คัน คิดเป็น 34% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด รถยนต์ HEV ยังคงได้รับความนิยมสูงสุด แม้ยอดจำหน่ายจะลดลง 11% แต่ก็ยังมียอดจำหน่ายถึง 7,355 คัน คิดเป็น 56% ของตลาด xEV ทั้งหมด ในทางกลับกัน ยอดจำหน่าย BEV กลับลดลงอย่างมากถึง 32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมียอดจำหน่าย 4,982 คัน

เมื่อพิจารณายอดจำหน่ายรถยนต์สะสมตั้งแต่เดือนมกราคม – กันยายน 2567 พบว่าตลาดรถยนต์รวมมียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 438,659 คัน ลดลง 25.3% โดยรถยนต์นั่งมียอดจำหน่าย 169,862 คัน ลดลง 22.7% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มียอดจำหน่าย 268,797 คัน ลดลง 26.8% และรถกระบะขนาด 1 ตันมียอดจำหน่าย 153,504 คัน ลดลงถึง 40% และคาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์รวมทั้งปี 2567 จะอยู่ที่ประมาณ 547,885 คัน (กรณีที่ช่วง 3 เดือนสุดท้าย ใช้อัตราการลดลง 25.3% ในอัตราเดียวกัน)

10 อันดับยอดขายรถยนต์ 9 เดือนแรกของไทย

อันดับยี่ห้อจำนวนคันส่วนแบ่งตลาด (%)
1โตโยต้า (Toyota)167,21838.1
2อีซูซุ (Isuzu)65,26914.9
3ฮอนด้า (Honda)58,31113.3
4บีวายดี (BYD)22,2375.1
5มิตซูบิชิ (Mitsubishi)20,3564.6
6ฟอร์ด (Ford)16,1313.7
7เอ็มจี (MG)12,9753
8นิสสัน (Nissan)7,3681.7
9มาสด้า (Mazda)7,1601.6
10ฉางอาน (Changan)6,2031.4

จากข้อมูลยอดขายรถยนต์ในประเทศไทยช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม-กันยายน) พบว่า โตโยต้ายังคงรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยยอดจำหน่ายสะสมสูงถึง 167,218 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 38.1% ตามมาด้วยอีซูซุ ซึ่งมียอดขาย 65,269 คัน (14.9%) และฮอนด้า 58,311 คัน (13.3%) ตามลำดับ

อย่างไรก็ดี ปรากฏการณ์ที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือการขยายตัวของแบรนด์รถยนต์สัญชาติจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บีวายดี ซึ่งมียอดขายรวม 22,237 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 5.1% สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มความต้องการรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ที่เพิ่มสูงขึ้นในประเทศไทย พร้อมกันนี้ แบรนด์ฉางอานยังสามารถบรรลุเป้าหมายในการเข้าสู่ 10 อันดับแรกของยอดขายรถยนต์ได้เป็นครั้งแรก ด้วยยอดขาย 6,203 คัน (1.4%) แซงหน้า เกรท วอลล์ มอเตอร์ ซึ่งหลุดจากอันดับดังกล่าว

ภาวะวิกฤตตลาดยานยนต์ไทย แม้มีสัญญาณฟื้นตัว แต่ความท้าทายยังคงอยู่

ยอดจำหน่ายในเดือนกันยายนตกต่ำที่สุดในรอบ 53 เดือน ทางด้าน คุณสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่ากังวลว่า ยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ในประเทศประจำเดือนกันยายน 2567 อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 53 เดือน หรือ 4 ปี 5 เดือน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงภาวะวิกฤตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปัจจุบัน

ปัจจัยลบที่ฉุดรั้งการเติบโตของตลาดยานยนต์

  • ภาระหนี้สินครัวเรือน: ระดับหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเข้าถึงสินเชื่อเพื่อการซื้อยานยนต์
  • ภาวะเศรษฐกิจซบเซา: อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในไตรมาสที่สองของปี 2567 อยู่ที่ 2.3% และคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตตลอดทั้งปีจะอยู่ที่ 2.7 – 2.8% เท่านั้น ซึ่งบ่งชี้ถึงกำลังซื้อที่หดตัวของผู้บริโภค
  • ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม: ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนสิงหาคม 2567 หดตัวลง 1.91% สะท้อนให้เห็นถึงรายได้ที่ลดลงของภาคแรงงาน

ผลกระทบจากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง นอกเหนือจากปัจจัยภายในประเทศ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงขึ้น ยังส่งผลกระทบต่อการส่งออกยานยนต์ของไทย เนื่องจากประเทศคู่ค้าสำคัญมีแนวโน้มที่จะชะลอการนำเข้า แม้จะมีความท้าทายดังกล่าว แต่ตลาดยานยนต์ยังคงได้รับแรงหนุนจากปัจจัยบวก อาทิ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ และกลยุทธ์ทางการตลาดที่มุ่งเน้นการส่งเสริมการขายจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค

ดังนั้นการปรับประมาณการผลผลิตยานยนต์ คุณสุรพงษ์ ได้กล่าวถึงแผนการปรับลดเป้าหมายการผลิตยานยนต์ของปี 2567 ทั้งในส่วนของการจำหน่ายภายในประเทศและการส่งออก เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะการณ์ของตลาดในปัจจุบัน

อนาคตตลาดยานยนต์ไทย ท่ามกลางความผันผวนและโอกาส

10 อันดับ ยอดขายรถยนต์ ปี 67 (9 เดือนแรก) ใครคือเบอร์ 1 .ในประเทศไทย

จากข้อมูลทั้งหมด เห็นได้ชัดว่าตลาดยานยนต์ไทยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 ต้องเผชิญกับความท้าทายและความผันผวนมากมาย ทั้งปัจจัยภายในประเทศ เช่น หนี้ครัวเรือน และปัจจัยภายนอกประเทศ เช่น ความขัดแย้งระหว่างประเทศ แม้ว่าจะมีสัญญาณเชิงบวกจากนโยบายของภาครัฐ การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ และกลยุทธ์ทางการตลาด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกำลังเผชิญกับภาวะวิกฤต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อยอดขายในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ตกต่ำที่สุดในรอบ 53 เดือน

สิ่งสำคัญที่ต้องจับตามองคือสถานการณ์หนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค และความสามารถในการเข้าถึงสินเชื่อ นอกจากนี้ ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ภาวะเงินเฟ้อ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และที่สำคัญ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี เช่น การพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า รถยนต์ไร้คนขับ เป็นต้น กำลัง Disrupt อุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องปรับตัว และพัฒนานวัตกรรม เพื่อแข่งขันในตลาดโลก

อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสและความหวังสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เช่น การเติบโตของตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่ประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นฐานการผลิต นโยบายส่งเสริมของภาครัฐ เช่น การลดภาษี เงินอุดหนุน และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะช่วยกระตุ้นตลาด และดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ รวมถึง ความต้องการรถยนต์ในกลุ่มประเทศ CLMV ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาด

สุดท้ายนี้ อนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ขึ้นอยู่กับความสามารถในการปรับตัว รับมือกับความท้าทาย และคว้าโอกาส ผู้ประกอบการ ภาครัฐ และผู้บริโภค ต้องร่วมมือกัน เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก

Previous Post

N2908080 การทรยศจากคนใกล จะทำให เธอเข มแข งหร ออ อนแอลง #ก นและก นซ part 2

Next Post

N2108144 คนม ประว แบบผม คงไม ใครอยากร บเข าทำงานหรอก part 2

Next Post

N2108144 คนม ประว แบบผม คงไม ใครอยากร บเข าทำงานหรอก part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N2209733 ทำไมช ตฉ องมาเจอก บผ ชายฮ วยแตกด วยน าาา part 2
  • N2209738 เม ยเก า part 2
  • N0809058 ความร การแต งงาน นเป นหน าท part 2
  • N0809057 คนท อย องนอนเราค อใครคะ part 2
  • N0909190 บพ ธธ ระก จครอบคร part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • September 2025
  • August 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.