โตโยต้าครองแชมป์ 10 อันดับรถยนต์ขายดีทั่วโลกปี 2024
RAV4 ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุด แซงหน้า Tesla Model Y เล็กน้อย โดยมีตัวแทน 5 รายติดอยู่ใน 10 อันดับแรก แสดงให้เห็นว่า Toyota ยังคงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งอย่างแท้จริงในตลาดรถยนต์โลก
Báo Khoa học và Đời sống•05/07/2025
วิดีโอ : แนะนำรถยนต์ SUV รุ่นใหม่ Toyota RAV4
ในช่วงปลายปี 2567 ตลาดรถยนต์ โลก มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจในการจัดอันดับรถยนต์ที่ขายดีที่สุด รถยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ Toyota RAV4 รถ SUV สำหรับการใช้งานในเมืองที่คุ้นเคย มียอดขายรวมมากกว่า 1.18 ล้านคัน มากกว่า Tesla Model Y ซึ่งอยู่ในอันดับสองเพียง 2,000 คัน การไล่ล่าอย่างดุเดือดระหว่างสองชื่อที่เป็นตัวแทนของสองเจเนอเรชัน ได้แก่ รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบดั้งเดิมและรถยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่
RAV4 ไม่เพียงแต่รักษายอดขายให้คงที่เท่านั้น แต่ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 11% เมื่อเทียบกับปี 2566 ขณะเดียวกัน Model Y แม้จะยังคงรักษาสมรรถนะสูงไว้ได้ แต่เริ่มมีสัญญาณชะลอตัวลง โดยลดลง 3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า การแข่งขันนี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงไปของตลาดอย่างชัดเจน โดยรถยนต์ไฟฟ้ามีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ แต่รถยนต์แบบดั้งเดิมยังไม่สามารถทดแทนได้ง่ายนัก
อันดับที่สามตกเป็นของ Toyota Corolla Cross รถยนต์ C-SUV ระดับโลก ด้วยยอดขายเกือบ 860,000 คัน เพิ่มขึ้น 18% นอกจากนี้ยังเป็นรถยนต์ที่มีการเติบโตสูงสุดใน 10 อันดับแรก เนื่องจากได้รับการตอบรับที่ดีในตลาดเกิดใหม่หลายแห่ง ตามมาติดๆ ด้วย Honda CR-V ด้วยยอดขายมากกว่า 854,000 คัน ยังคงรักษาเสน่ห์ดั้งเดิมของรถยนต์ SUV สำหรับครอบครัวไว้ได้
โตโยต้ายังคงครองความเป็นผู้นำด้วยรถยนต์แบรนด์ดังที่คุ้นเคย ได้แก่ โคโรลล่า (อันดับ 5), ไฮลักซ์ (อันดับ 6) และแคมรี (อันดับ 8) แม้ว่ายอดขายรถยนต์บางรุ่นจะมีสัญญาณลดลง แต่โตโยต้ายังคงครองส่วนแบ่งตลาดครึ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่แบรนด์อื่นไม่เคยทำได้ ความทนทาน เสถียรภาพ และกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย คือปัจจัยที่ช่วยให้โตโยต้ารักษาตำแหน่งในตลาดรถยนต์ระดับโลก
ในช่วงครึ่งหลังของการจัดอันดับ Ford F-150 ซึ่งเป็นตัวแทนของรถกระบะอเมริกัน ไต่ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 7 แซงหน้า Camry ด้วยยอดขายเกือบ 595,000 คัน ส่วน Tesla Model 3 ยังคงรักษาอันดับ 9 ไว้ได้ด้วยยอดขาย 560,000 คัน เพิ่มขึ้น 10% พิสูจน์ให้เห็นว่ารถเก๋งไฟฟ้ายังคงได้รับความนิยมไม่แพ้ SUV ในขณะเดียวกัน BYD Qin ซึ่งเป็นรถยนต์จีนรุ่นเดียวที่ติดอันดับต้นๆ ก็ปิดท้ายด้วยยอดขายมากกว่า 502,000 คัน โดยยังคงใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งของตลาดภายในประเทศ
ที่น่าสังเกตคือ ไม่มีรถยนต์สัญชาติเกาหลีรุ่นใดติดอันดับท็อป 10 ในปีนี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้ฮุนไดและเกียจะเคยรักษาฐานการผลิตในบางภูมิภาคไว้ก็ตาม นี่อาจเป็นสัญญาณของการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตลาดโลกกำลังเผชิญกับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของรถยนต์จีน และผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่เร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยรวมแล้ว ปี 2024 ถือเป็นปีสำคัญที่การเปลี่ยนแปลงระหว่างขนบธรรมเนียมและความทันสมัยในอุตสาหกรรมยานยนต์จะชัดเจนยิ่งขึ้นกว่าที่เคย โตโยต้ายังคงเป็น “ภูเขาที่มั่นคง” ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุม ขณะที่เทสลาและบีวายดีแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการครองอนาคต การเปลี่ยนแปลงไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่การแข่งขันกำลังเข้มข้นขึ้นทุกวันอย่างแน่นอน
เปิด 10 อันดับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าขายดีที่สุดในโลกปี 2023 รุ่นไหนขายดีสุดพร้อมเปรียบเทียบตลาดไทย
3,548

ในปี 2023 นับเป็นปีที่เกิดความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างมากมาย หนึ่งในความเปลี่ยนแปลงที่เราคนไทยเองก็รู้สึกได้ชัดเจนก็คือ “อุตสาหกรรมยานยนต์” ที่กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเพราะการเข้ามาของ “รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า” หรือ BEV หรือ รถ EV ที่หลากหลายแบรนด์จากหลากหลายประเทศเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยกันอย่างคึกคัก และสิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยนั้นก็เป็นไปตามแนวโน้มของตลาดโลกเช่นกัน
บทความนี้เราจะมาฉายภาพความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลก รวมถึงในประเทศไทยให้ชัดเจนขึ้นด้วยข้อมูลยอดขายรถยนต์ในปี 2023 ที่ผ่านมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดขายรถ EV ทั่วโลกว่ารถรุ่นไหนแบรนด์ไหนที่ขายที่ที่สุดทั้งหมด 10 อันดับ รวมไปถึง ยอดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยด้วยเช่นกันจากข้อมูลยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าปี 2023 ที่ผ่านมาทั้งหมดจากกรมขนส่งทางบกว่ามีความแตกต่างจากตลาดโลกมากน้อยแค่ไหน

ภาพรวมตลาดโลกสำหรับรถ BEV ในปี 2023
สำหรับภาพรวมยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดโลกนับตั้งแต่เดือน “มกราคม” ถึงเดือน “พฤศจิกายน” 2023 มีรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายได้ทั่วโลกไปแล้ว 12.1 ล้านคัน โดยคาดการณ์ว่าเมื่อสรุปตัวเลขเดือน “ธันวาคม” มาด้วยจะสามารถพุ่งไปแตะที่ 13-14 ล้านคันได้ไม่ยากนักเรียกว่าจะเพิ่มขึ้นจากปี 2022 ที่ผ่านมาที่ทำเอาไว้ 7.68 ล้านคันถึงเกือบ 2 เท่าตัวหรือเพิ่มขึ้นเกือบ 100% ก็ว่าได้ ส่วนสัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของทั้งโลกก็มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 12% แล้วโดยหากนับรถยนต์แบบ Plug-in Hybrid Electric vihecle (PHEV) ด้วยแล้วสัดส่วนจะพุ่งไปถึง 19% เลยทีเดียว

10 อันดับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก
สำหรับ 10 อันดับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่ทำยอดขายได้ดีที่สุดทั่วโลกได้แก่ BYD แบรนด์จากประเทศจีนที่กินส่วนแบ่งตลาดไปได้มากถึง 21% ด้วยรุ่นรถที่มีให้เลือกหลากหลายตามมาด้วย Tesla ที่ 13% จากสองรุ่นเด่นอย่าง Model3 และ Model Y ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ทำยอดขายได้มากที่สุดในโลก ตามมาด้วยอันดับที่ 3 BMW ที่ยอดใกล้เคียงและอาจมีอันดับเปลี่ยนแปลงได้ในช่วงสุดท้ายของปีกับ GAC Aion และ Volkswagen ที่ตามมาในอันดับที่ 4 และ 5 ตามลำดับ

รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลกประจำปี 2023

แต่หากไล่ลำดับรุ่นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในปี 2023 จำนวน 10 อันดับแรกนั้นจะพบว่ารถไฟฟ้าแบรนด์ Tesla อย่าง Tesla Model Y นั้นนำโด่งมีเป็นอันดับ 1 เลยทีเดียวโดยมียอดทะลุ 1 ล้านคันเป็นที่เรียบร้อยในปีที่ผ่านมา ตามมาด้วย Tesla Model 3 ส่วน BYD Atto3 และ BYD Dolphin ตามมาในอันดับ 3 และ 4 ตามลำดับ

ที่น่าสนใจก็คือรถยนต์รุ่นที่ขายดีนอกจาก Tesla Model Y และ Model 3 ที่นำโด่งในอันดับที่ 1 และอันดับที่ 2 แล้ว 8 อันดับที่เหลือเป็นรถยนต์แบรนด์จีนไปแล้ว 7 อันดับจาก BYD ที่ครองไปแล้ว 3 อันดับ Wuling ครองไป 2 อันดับ, GAC Aion ครองไปอีก 2 อันดับโดยมีรถยนต์แบรนด์ Volkswagen ที่สอดแทรกขึ้นมาได้ในอันดับที่ 9
รถยนต์ไฟฟ้ายอดฮิตในไทยประจำปี 2023

สำหรับยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าใน “ประเทศไทย” เราใช้ข้อมูลจากยอดจดทะเบียนรถยนต์ของกรมขนส่งทางบกนับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนธันวาคม 2023 พบว่ารถยนต์ที่ฮิตที่สุดในปี 2023 ก็คือ BYD Atto3 ที่มียอดจดทะเบียนมากถึง 19,214 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดมากถึง 25.18% ของทั้งประเทศ และที่น่าสนใจก็คือ “Neta V” ที่ก้าวมาอยู่ในอันดับ 2 ได้ด้วยจำนวนยอดจดทะเบียนที่ 12,777 คัน คิดเป็นสัดส่วน 16.7% ส่วนอันดับที่ 3 ยังคงเป็นแบรนด์จีนอย่าง “BYD Dolphin” ที่มียอดจดทะเบียนมากถึง 9,410 คัน ตามมาด้วย “ORA Good Cat” และ “Tesla Model Y” ในอันดับที่ 4 และ 5 ตามลำดับ

เรียกได้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างมากมายมียอดจดทะเบียนเพิ่มมากขึ้นกว่าปี 2022 ที่มียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 9,729 คัน มาอยู่ที่ 76,314 คันหรือเพิ่มขึ้นถึง 648% พุ่งทะลุเกินความคาดหมายไปอย่างมากมาย ในขณะที่สัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้าต่อจำนวนรถยนต์จดทะเบียนในประเทศไทยทั้งหมดในปี 2023 นั้นอยู่ที่ 12% แล้วไม่ต่างจากสัดส่วนในตลาดโลกมากนักและคาดหมายว่าในปี 2024 นี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลบางส่วนที่พอจะทำให้เห็นภาพการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคตได้ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งในปี 2024 ก็เป็นปีที่ได้รับการคาดหมายว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะเติบโตมากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะเมื่อเกิดการแข่งขันเทคโนโลยีก็จะพัฒนาต่อไปอีกทั้งระยะเวลาการชาร์จ ระยะทางที่ทำได้ รวมถึงเครือข่ายสถานีชาร์จที่จะครอบคลุมมากขึ้น สิ่งเหล่านี้ทำให้คนตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดในประเทศไทยที่จะกลายมาเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัวไม่ว่าจะเป็น GWM ที่สร้างโรงงานผลิต ORA Good Cat รุ่นใหม่ได้แล้ว ส่วน BYD เองก็สร้างโรงงานผลิต BYD Dolphin เช่นเดียวกับ NETA รวมไปถึง ChangAn และ AION ด้วย ซึ่งจะทำให้ตลาดคึกคักมากยิ่งขึ้นไปอีก เรียกได้ว่าปี 2024 จะเป็นปีแห่งรถยนต์ไฟฟ้าก็ว่าได้